จรรยาบรรณและจริยธรรมธุรกิจของบริษัท
(Code of Conduct and Business Ethics)
บริษัท พีเอพี เอ็กซ์ซิม จำกัด
สารบัญ
สารจากประธานกรรมการ
บริษัท พีเอพี เอ็กซ์ซิม จำกัด (“บริษัท”)
มีนโยบายในการประกอบธุรกิจเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณธรรมและจริยธรรมสูงสุด
โดยบริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีจรรยาบรรณ
นอกเหนือจากการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานในการประกอบธุรกิจแล้ว
บริษัทต้องธำรงไว้ซึ่งการเป็นบรรษัทภิบาล ยึดมั่นในหลักจรรยาบรรณธุรกิจ โดยส่งเสริมให้กรรมการ
ผู้บริหาร และพนักงาน ของบริษัทปฏิบัติงานโดยยึดมั่นในจริยธรรม ดำเนินธุรกิจอย่างซื่อตรง
โปร่งใส ตรงไปตรงมา ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืน ตลอดจนได้รับการยอมรับ เชื่อถือ
และความไว้วางใจจากผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย
ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดทำจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้ เพื่อให้กรรมการ ผู้บริหาร
และพนักงานของบริษัทใช้เป็นแนวทาง หรือเป็นกรอบในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้
จรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ภารกิจ อุดมการณ์ และค่านิยมขององค์กร
ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนี้
จรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้จะเป็นมาตรฐานและใช้บังคับกับกรรมการ
ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับของบริษัท โดยบริษัทคาดหวังให้กรรมการ ผู้บริหาร
และพนักงานของบริษัทมีส่วนร่วมในการปฏิบัติตามจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้
โดยยึดถือปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย กรรมการ
ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทจะต้องรับทราบ ทำความเข้าใจ
และยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละคนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เปิดเผย โปร่งใส และคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท
และเป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้อง
ข้อพึงปฏิบัติ
1. นิยาม
“บริษัท” หมายถึง บริษัท พีเอพี เอ็กซ์ซิม จำกัด และบริษัทย่อย
“บริษัทย่อย” หมายถึง บริษัทที่มีลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังนี้
-
(ก) บริษัทที่บริษัท พีเอพี เอ็กซ์ซิม จำกัด มีอำนาจควบคุมกิจการ
-
(ข) บริษัทที่บริษัทตาม (ก) มีอำนาจควบคุมกิจการ
-
(ค) บริษัทที่อยู่ภายใต้อำนาจควบคุมกิจการของบริษัทตาม (ข) ต่อไปเป็นทอด ๆ
โดยเริ่มจากการอยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมกิจการของบริษัทตาม (ข)
“อำนาจควบคุมกิจการ” หมายถึง การมีความสัมพันธ์ในลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังนี้
- (ก)
การถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงในบริษัทเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทนั้น
- (ข) การมีอำนาจควบคุมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท
ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยอ้อม หรือไม่ว่าเพราะเหตุอื่นใด
- (ค) การมีอำนาจควบคุมการแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการตั้งแต่กึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด
ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยอ้อม
2. ข้อพึงปฏิบัติต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย
-
(1) นโยบายความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น
บริษัทได้ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องและมีจริยธรรมต่อผู้ถือหุ้น
โดยให้ความสำคัญกับการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน
รายงานข้อมูลข่าวสารที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นทุกรายทราบอย่างสม่ำเสมอ
เท่าเทียมกัน ครบถ้วนตามความเป็นจริงของบริษัททั้งที่เป็นด้านบวกและด้านลบ
ในเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน
และส่งเสริมให้ผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น
เพื่อให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญ รวมทั้งรับทราบการดำเนินงานและกิจกรรมต่าง ๆ
ของบริษัทตลอดจนมุ่งมั่นเป็นตัวแทนที่ดีของผู้ถือหุ้นในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต
และจริยธรรมอันดีงาม และติดตามการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทและฝ่ายบริหาร
โดยจัดให้มีมาตรการป้องกันการใช้ข้อมูลภายในเพื่อประโยชน์ส่วนตนของคณะกรรมการบริษัทและฝ่ายบริหารเพื่อรักษาประโยชน์ของผู้ถือหุ้น
และไม่กระทำการใดอันเป็นการละเมิดหรือลิดรอนสิทธิของผู้ถือหุ้น
- (2) นโยบายความรับผิดชอบต่อลูกค้า
บริษัทมุ่งมั่นในการสร้างความพึงพอใจและความมั่นใจให้แก่ลูกค้าของบริษัท
เพื่อให้ได้รับบริการตามมาตรฐาน
โดยบริษัทพัฒนาคุณภาพของการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
โดยการเฝ้าดูและติดตามผลตอบรับจากลูกค้าต่อการให้บริการของบริษัท
เพื่อนำผลที่ได้มาปรับปรุงการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น
ตลอดจนส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพื่อสามารถส่งมอบบริการที่มีคุณภาพ ตรงตาม
หรือสูงกว่าความคาดหมายของลูกค้าในราคาที่เป็นธรรม
-
(3) นโยบายความรับผิดชอบที่มีต่อพนักงาน
บริษัทตระหนักถึงคุณค่าทรัพยากรมนุษย์
และส่งเสริมให้พนักงานปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดมีสภาพการจ้างงานที่ยุติธรรม
มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
โดยบริษัทจะปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนโดยเสมอภาคกันไม่แบ่งแยกในเรื่องเชื้อชาติ เพศ สีผิว
ศาสนา ชาติกำเนิด อายุ รสนิยมทางเพศ ความพิการทางร่างกาย
หรือลักษณะส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน
และจะดูแลไม่ให้เกิดความคุกคามข่มขู่ต่อบุคลากรทุกระดับ ไม่ว่าจากบุคคลใดหรือโดยวิธีใด ๆ
นอกจากนี้ บริษัทจะให้ผลตอบแทนที่เป็นธรรมแก่ผู้บริหารหรือพนักงานทุกคน
โดยการแต่งตั้งและโยกย้ายผู้บริหารหรือพนักงาน รวมถึงการให้รางวัลและการลงโทษ
ต้องกระทำด้วยความสุจริตใจและตั้งอยู่บนพื้นฐานความรู้
ความสามารถและความเหมาะสมของผู้บริหารหรือพนักงาน ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความรู้
ความสามารถ และทักษะของพนักงานโดยให้โอกาสอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ
ตลอดจนปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารหรือพนักงานอย่างเคร่งครัด
-
(4) นโยบายความรับผิดชอบที่มีต่อคู่ค้า
บริษัทมีนโยบายที่จะให้การปฏิบัติต่อคู่ค้าของบริษัทอย่างเสมอภาค และเป็นธรรม
โดยการดำเนินการใดๆ ต้องคำนึงถึงชื่อเสียงความถูกต้องตามกฎหมาย
ระเบียบข้อบังคับและประเพณีปฏิบัติที่สำคัญ รวมทั้งปฏิบัติตามพันธะสัญญากับคู่ค้า
และคำนึงถึงความเสมอภาคในการดำเนินธุรกิจและผลประโยชน์ร่วมกันกับคู่ค้า
โดยตระหนักถึงความสำคัญกับคู่ค้า
อันเป็นบุคคลที่ช่วยเหลือและเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัทจึงปฏิบัติต่อคู่ค้าอย่างเสมอภาคบนพื้นฐานของความเป็นธรรมและเคารพซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ ในการคัดเลือกคู่ค้าของบริษัท จะยึดถือหลักเกณฑ์คุณสมบัติและความเหมาะสมในด้าน
อื่นๆ
ของคู่ค้าเป็นสำคัญโดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับคู่ค้าทุกรายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการคัดเลือก
ตลอดจนเปิดโอกาสให้คู่ค้ารายใหม่สามารถเข้ามาร่วมงาน ทั้งนี้
บริษัทส่งเสริมไม่ให้มีการเรียก รับ หรือจ่ายผลประโยชน์ใดๆ
ที่ไม่สุจริตในทางการค้าให้กับคู่ค้า
-
(5) นโยบายความรับผิดชอบที่มีต่อคู่แข่งทางการค้า
บริษัทมีนโยบายที่จะปฏิบัติต่อคู่แข่งทางการค้าโดยมุ่งเน้นการประกอบธุรกิจที่เป็นธรรม
และโปร่งใส โดยยึดหลักธรรมาภิบาลทางการแข่งขันตามหลักเกณฑ์แห่งกฎหมาย จารีตทางการค้า
และแนวทางการปฏิบัติที่ดี
ที่สอดคล้องกับหลักสากลภายใต้กรอบแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับหลักปฏิบัติการแข่งขันทางการค้า
บริษัทให้ความสำคัญกับคู่แข่งทางธุรกิจ โดยไม่ได้มองว่าเป็นเพียงคู่แข่งทางการค้าเท่านั้น
บริษัทยังมองเห็นโอกาสที่คู่แข่งทางการค้าเดิม
สามารถผันตัวมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญในอนาคต
บริษัทจึงมีแนวปฏิบัติต่อคู่แข่งทางการค้า ดังต่อไปนี้
- (1) ประพฤติปฏิบัติภายใต้กรอบกติกาของการแข่งขันที่ยอมรับกันโดยทั่วไป
- (2) สนับสนุนและส่งเสริมการค้าเสรี เป็นธรรม ไม่ผูกขาด
หรือกำหนดให้คู่ค้าต้องทำการค้ากับบริษัทเท่านั้น
- (3) ไม่ละเมิดความลับหรือแสวงหาข้อมูลที่เป็นความลับทางการค้าของคู่แข่งด้วยวิธีการที่ไม่สุจริต
ไม่เหมาะสม ขัดต่อจริยธรรม หรือผิดกฎหมาย
- (4) ไม่ทำลายชื่อเสียงของคู่แข่งทางการค้าด้วยการกล่าวหาในทางร้าย
การสร้างข่าวที่เป็นเท็จ หรือการโจมตีคู่แข่ง
- (5) ไม่เข้าร่วมในสัญญาทางการค้า
หรือกระทำการใดในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
ลดหรือจำกัดการแข่งขันทางการค้า หรือการผูกขาดทางการค้า
- (6) ในการติดต่อกับคู่แข่ง
บุคลากรของบริษัทต้องไม่เปิดเผยหรือละเลยให้ความลับของบริษัทตกอยู่ในมือคู่แข่ง
-
(6) นโยบายความรับผิดชอบที่มีต่อเจ้าหนี้
บริษัทมีนโยบายเกี่ยวกับการปฏิบัติที่เป็นธรรมและรับผิดชอบต่อเจ้าหนี้
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของบริษัทและอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม
และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
รวมทั้งยึดมั่นในการปฏิบัติตามข้อตกลง สัญญา ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นจริงอยู่เสมอ
เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
บริษัทมีแนวปฏิบัติที่จะยึดมั่นในสัญญาและถือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่มีต่อเจ้าหนี้เป็นสำคัญ
ในการชำระคืนเงินต้น ดอกเบี้ย และการดูแลหลักประกันต่าง ๆ
กรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ต้องรีบเจรจากับเจ้าหนี้ล่วงหน้า เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน
มีการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้อง ครบถ้วนอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อให้เจ้าหนี้มั่นใจในฐานะทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้
-
(7) นโยบายความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
บริษัทตระหนักว่าบริษัทเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ซึ่งต้องรับผิดชอบช่วยเหลือสังคม
และสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนและสังคม โดยบริษัทมีนโยบายดำเนินธุรกิจ
โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์ทรัพยากรต่าง ๆ
อีกทั้งเน้นการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
และส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกบริษัทให้แก่บุคลากร
บริษัทส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด
รวมถึงสนับสนุนการเลือกใช้วัสดุหรืออุปกรณ์ในการก่อสร้างที่มาจากแหล่งผลิตที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ไม่มาจากพื้นที่ที่มีประเด็นด้านความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และลดการก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก
นอกจากนี้ บริษัทจะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐ
ตลอดจนสำรวจและทำความเข้าใจระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เพื่อป้องกันมิให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทกระทบต่อวิถีสังคม หรือชุมชนนั้น ๆ
3. ข้อพึงปฏิบัติของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน
- (1) นโยบายการรักษาทรัพย์สินและผลประโยชน์ขององค์กร
-
(ก) กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน
มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดูแลและใช้ทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและไม่นำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือบุคคลอื่น
-
(ข) ผู้บริหารและพนักงานต้องรับทราบและปฏิบัติตามแนวทางการใช้ระบบคอมพิวเตอร์และระบบเน็ตเวิร์คอย่างถูกต้องและเหมาะสม
-
(ค) ห้ามนำซอฟต์แวร์มาติดตั้ง หรือบันทึกในระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท
โดยมิได้รับอนุญาต
-
(ง) ไม่นำซอฟต์แวร์ของบริษัทไปให้บุคคลอื่นใด ซึ่งหมายรวมถึงคู่ค้า คู่สัญญา
ลูกค้าของบริษัท และการนำซอฟต์แวร์ไปติดตั้งเป็นการส่วนตัว นอกจากนี้
ยังรวมถึงการใช้อินเทอร์เน็ตของพนักงานหรือเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อโอนถ่ายข้อมูล
การเผยแพร่สิ่งลามกอนาจาร การส่งและรับข้อมูลข่าวสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล)
ที่ละเมิดต่อกฎหมายหรือกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์หรือขัดต่อเจตนาหรือจุดมุ่งหมายของนโยบายหรือระเบียบปฏิบัติหรือระเบียบนโยบายระบบสารสนเทศของบริษัท
หรือละเมิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
(รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) หรือกฎหมายอื่นๆ
-
(จ) ในระหว่างการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้าง
ผู้บริหารหรือพนักงานจะต้องไม่กระทำการละเว้นหรืองดเว้นการกระทำการใดๆ
อันเป็นเหตุให้บริษัท ได้รับความเสียหายสืบเนื่องมาจากข้อมูล ข่าวสาร และ/หรือ
รายงานหรือบันทึกหรือการสื่อสารที่เป็นเท็จหรือไม่ถูกต้อง ไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ
โดยเจตนา
-
(ฉ) ผู้บริหารหรือพนักงานจะต้องไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท
และ/หรือ
ของบริษัทอื่นใดที่อนุญาตให้บริษัทใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินทางปัญญานั้น ไม่ว่าด้วยสัญญา
และ/หรือ วิธีการใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำซ้ำ
หรือดัดแปลงเผยแพร่ต่อสาธารณชนหรือให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนาไม่ว่าจะโดยแสวงหากำไรหรือไม่ก็ตาม
หากผู้บริหารหรือพนักงานผิดจรรยาบรรณข้อนี้บริษัทมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างได้ทันที
-
(ช) ผู้บริหารหรือพนักงานต้องใช้ทรัพย์สินของบริษัทด้วยความระมัดระวัง
รับผิดชอบ
ดูแลรักษาเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆ ที่ได้รับจากบริษัท
ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยอยู่เสมอโดยติดต่อซ่อมแซมเมื่อเกิดการชำรุด
-
(ซ) ผู้บริหารหรือพนักงานต้องไม่ฝ่าฝืนระเบียบ
หรือคำสั่งของบริษัทอันอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หรือทำให้ทรัพย์สินของบริษัทเสียหาย
-
(ฌ) ผู้บริหารหรือพนักงานต้องรักษาทรัพย์สินของบริษัทมิให้สูญหาย
หรือถูกทำลายไปแม้มิใช่หน้าที่รับผิดชอบโดยตรงของตน
-
(2) นโยบายการรักษาผลประโยชน์ขององค์กร
-
(ก) กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ไม่พึงประกอบการ ดำเนินการ
หรือมีส่วนร่วมในธุรกิจอันเป็นการแข่งขันกับกิจการของบริษัท
-
(ข) กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน
มีสิทธิในการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทได้
แต่ทั้งนี้กรรมการและผู้บริหารต้องจัดทำและนำส่งรายงานการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) ภายในระยะเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ กรรมการ ผู้บริหาร
และพนักงานที่รู้ข้อมูลภายใน ต้องทำตามนโยบายป้องกันการใช้ข้อมูลภายใน กฎหมาย
และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
-
(3) นโยบายการรักษาข้อมูลความลับของบริษัท
-
(ก) บรรดาวิธีการ กระบวนการ ความคิด ตลอดจนความรู้เทคนิคต่างๆ หรือความรู้
และ/หรือ
เทคนิควิธีการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการงานหรือการดำเนินการของบริษัท
เนื่องมาจากความคิดการค้นคว้าศึกษาวิจัย และ/หรือ
การกระทำการอื่นใดอันเนื่องมาจากการปฏิบัติงานตามหน้าที่และตามสัญญาจ้างของผู้บริหารและพนักงานในทุกกรณี
ให้ถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัททั้งสิ้นไม่ว่าจะได้มีการจดทะเบียนหรือจดแจ้งตามกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาหรือไม่
ทั้งนี้ ห้ามมิให้มีการเผยแพร่ต่อโดยมิได้รับอนุญาตจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นลายลักษณ์อักษร
-
(ข) ผู้บริหารหรือพนักงานตกลงที่จะรักษา “ความลับทางการค้า”
ของบริษัททั้งหมดที่ได้รับรู้ หรือได้ล่วงรู้มาเนื่องจากการปฏิบัติงานให้แก่บริษัท
โดยจะไม่นำมาเปิดเผย ส่งต่อไปให้ผู้หนึ่งผู้ใดที่ไม่เกี่ยวข้องและจำเป็น
หรือทำสำเนาโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งจะไม่กระทำการหรืองดเว้นกระทำการใดๆ
จนเป็นเหตุให้สถานะและชื่อเสียงของบริษัทเสียหายหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ธุรกิจของบริษัท
รวมตลอดทั้งจะไม่ดำเนินการรับจ้างหรือเข้าเป็นผู้บริหารหรือพนักงาน
หรือให้การแนะนำการปรึกษา การช่วยเหลือ หรือทำสัญญาใดๆ กับนิติบุคคลใดๆ
หรือกิจการของบุคคลที่เป็นคู่แข่งขันทางการค้ากับบริษัท
หรือทำธุรกิจที่มีลักษณะเหมือนหรือคล้ายคลึงกับกิจการของบริษัท
-
(ค) เพื่อประโยชน์ในการตีความข้อกำหนดข้อนี้ “ความลับทางการค้า” หมายถึง
ข้อมูลการค้าซึ่งยังไม่รู้จักกันโดยทั่วไป
หรือยังเข้าถึงไม่ได้ในหมู่บุคคลซึ่งโดยปกติแล้วต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าว
โดยเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
เนื่องจากเป็นความลับและเป็นข้อมูลที่บริษัทได้ใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาไว้เป็นความลับ
ทั้งนี้ ความลับทางการค้าอาจอยู่ในระเบียบ สัญญา หรือข้อตกลงอื่นใดของบริษัท
ที่กำหนดไว้และจะมีขึ้นต่อไป หรือตามที่พระราชบัญญัติความลับทางการค้า พ.ศ. 2545
(รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) กำหนดไว้
-
(ง) ผู้บริหารหรือพนักงานทุกคนของบริษัทจะต้องเก็บรักษา “ความลับ” ใดๆ
ที่มีต่อบริษัทของลูกค้า คู่สัญญา หรือคู่ค้าทางธุรกิจ หรือบุคคลอื่นใด
ที่ได้รับรู้หรือได้ล่วงรู้มาเนื่องจากการปฏิบัติงานให้แก่บริษัท
เว้นแต่การเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาตหรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด อาทิ
การเปิดเผยข้อมูลตามคำสั่งศาล
หรือตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นใดซึ่งกฎหมายได้ให้อำนาจไว้
-
(จ) ผู้บริหารหรือพนักงานของบริษัทต้องทราบถึงขั้นตอน
วิธีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
และปฏิบัติตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลอันเป็นความลับถูกเปิดเผยโดยไม่เจตนา
-
(ฉ) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
จะเป็นผู้ให้ความเห็นชอบข้อมูลที่จะนำหรือเปิดเผยต่อสาธารณชน
-
(ช) ผู้บริหารหรือพนักงานต้องยึดถือและปฏิบัติตามนโยบาย กฎระเบียบ
และข้อบังคับเกี่ยวกับระบบสารสนเทศของบริษัทอย่างเคร่งครัด อาทิเช่น
-
(ก) ต้องไม่แทรกแซงความเป็นส่วนบุคคลของผู้อื่น ไม่ว่ากรณีใดๆ
-
(ข) ต้องไม่เข้าใช้ข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัท
โดยใช้ได้เฉพาะส่วนที่ผู้บริหารหรือพนักงานมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเท่านั้น
-
(ค) ห้ามมิให้เข้าสู่ข้อมูลและไฟล์เอกสารต่างๆ
ของผู้ใช้รายอื่นโดยมิได้รับอนุญาต
-
(4) นโยบายป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์
บริษัทให้ความสำคัญกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยคาดหวังให้กรรมการ ผู้บริหาร
และพนักงานของบริษัทมีการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
อันจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า
และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์บนหลักการว่าการตัดสินใจใด
ๆ
ในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัท
และควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
โดยกำหนดให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้เสียกับรายการที่พิจารณาต้องแจ้งให้บริษัททราบถึงความสัมพันธ์หรือการมีส่วนได้เสียของตนในรายการดังกล่าว
และต้องไม่เข้าร่วมในการพิจารณา รวมถึงไม่มีอำนาจในการอนุมัติธุรกรรมนั้น ๆ โดยมีหลักการ
ที่สำคัญ ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์
-
(5) นโยบายและมาตรการต่อต้านการคอร์รัปชัน
บริษัทมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม บริหารงาน
ด้วยความโปร่งใสตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อให้มีการดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพ
มีความรับผิดชอบต่อสังคม และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ทั้งนี้
บริษัทได้กำหนดแนวทางในการประพฤติปฏิบัติที่เหมาะสมของคณะกรรมการ ฝ่ายบริหาร
และพนักงานในจริยธรรมทางธุรกิจ และจรรยาบรรณพนักงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “บรรษัทภิบาล”
ของบริษัท เพื่อแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นในการต่อต้านคอร์รัปชันทุกรูปแบบ
บริษัทได้กำหนด “นโยบายและมาตรการต่อต้านการคอร์รัปชัน” ขึ้นเพื่อเป็นแนวปฏิบัติ
สำหรับกรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงานทุกคน
บริษัทย่อยและบริษัทร่วมยึดถือและปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและเจตนารมณ์อันแน่วแน่ว่าบริษัทไม่ยอมรับการคอร์รัปชันทุกรูปแบบ
โดยมีหลักการ ที่สำคัญ ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายนโยบายและมาตรการต่อต้านการคอร์รัปชัน
-
(6) นโยบายการซื้อขายหลักทรัพย์และการใช้ข้อมูลภายใน
-
(ก) กรรมการ ผู้บริหาร
มีหน้าที่ต้องรายงานการถือครองหลักทรัพย์ของตนให้เป็นไปตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
-
(ข) บริษัท
บริษัทย่อยและบริษัทร่วมของบริษัทที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลภายในโดยดำเนินการให้มีความเสมอภาคและยุติธรรมต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน
และเพื่อเป็นการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายของบุคลากรทุกระดับของบริษัทและครอบครัวทุกคนที่ได้รับทราบหรืออาจได้รับทราบข้อมูลภายในที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนบริษัทจึงห้ามบุคคลดังกล่าวทำการซื้อขายหุ้นหรือชักชวนให้บุคคลอื่นซื้อหรือขายหรือเสนอซื้อหรือเสนอขายหุ้นบริษัทบริษัทย่อย
และ/หรือบริษัทร่วมของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ไม่ว่าจะด้วยตนเองหรือผ่านนายหน้าในขณะที่ยังครอบครองข้อมูลที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนอยู่โดยบริษัทและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถือว่าการซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะดังกล่าวเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อเก็งกำไรหรือสร้างความได้เปรียบให้กับบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
-
(ค) บริษัทได้จัดระบบรักษาความปลอดภัยในที่ทำงานเพื่อป้องกันแฟ้มข้อมูลและเอกสารลับและได้ดำเนินการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยให้รับรู้เฉพาะแก่ผู้เกี่ยวข้องและที่จำเป็นเท่านั้นจึงถือเป็นหน้าที่ของเจ้าของข้อมูลหรือผู้ครอบครองข้อมูลที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนจะต้องกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยโดยเคร่งครัด
ทั้งนี้ ผู้ฝ่าฝืนการใช้ข้อมูลภายในจะต้องถูกลงโทษทางวินัย และ/หรือ กฎหมาย แล้วแต่กรณี
-
(7) นโยบายเกี่ยวกับระบบควบคุมและตรวจสอบภายใน
และการรายงานทางบัญชีและการเงิน
- (ก) นโยบายเกี่ยวกับระบบควบคุมและตรวจสอบภายใน
จัดให้มีระบบควบคุมและตรวจสอบภายในที่มีประสิทธิภาพ
ภายใต้การตรวจสอบข้อมูลของผู้ตรวจสอบภายใน และการสอบทานของคณะกรรมการตรวจสอบ
-
(ข) นโยบายเกี่ยวกับการรายงานทางการบัญชีและการเงิน
ฝ่ายจัดการของบริษัทมีความรับผิดชอบต่อการจัดทำรายงานทางการเงินที่มีความถูกต้อง
ครบถ้วน และทันต่อเวลา ทั้งงบรายปีและรายไตรมาส
ซึ่งจัดทำตามมาตรฐานบัญชีที่ยอมรับโดยทั่วไป
-
(ก) ความถูกต้องของการบันทึกรายการ
-
• การบันทึกรายการทางธุรกิจทุกประเภทของบริษัทจะถูกต้องครบถ้วนและสามารถตรวจสอบได้โดยไม่มีข้อจำกัดหรือข้อยกเว้นใด
ๆ
-
• การลงรายการบัญชีและการบันทึกทางธุรกิจจะต้องเป็นไปตามความเป็นจริงไม่มีการบิดเบือนหรือสร้างรายการเท็จไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใด
ๆ ก็ตาม
-
• บุคลากรทุกระดับต้องดำเนินรายการทางธุรกิจให้สอดคล้องและเป็นไปตามระเบียบข้อกำหนดต่าง
ๆ
ของบริษัทรวมทั้งมีเอกสารหลักฐานประกอบการลงรายการทางธุรกิจที่ครบถ้วนและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างเพียงพอและทันเวลาเพื่อให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกการจัดทำและการประเมินรายงานทางการบัญชีและการเงินสามารถบันทึกและจัดทำรายการทางการบัญชีและการเงินทุกประเภทของบริษัทลงในระบบบัญชีของบริษัทโดยมีรายละเอียดที่ถูกต้องและครบถ้วน
-
(ข) รายงานทางการบัญชีและการเงิน
-
• กรรมการ ผู้บริหาร
หรือพนักงานทุกคนต้องไม่กระทำการบิดเบือน
ปกปิดข้อมูลหรือสร้างรายการเท็จ
ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรายการทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบัญชีและการเงินหรือข้อมูลรายการทางด้านปฏิบัติการ
-
• กรรมการ ผู้บริหาร
หรือพนักงานทุกคนควรตระหนักว่าความถูกต้องของรายงานทางการบัญชีและการเงินเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของคณะกรรมการบริษัท
ผู้บริหารและพนักงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
-
• กรรมการ ผู้บริหาร
หรือพนักงานทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการจัดเตรียม และ/หรือ
ให้ข้อมูลรายการทางธุรกิจ
-
(ค) แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย
-
• บุคลากรทุกระดับที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามระเบียบและข้อกำหนดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศ
และ/หรือ
ในต่างประเทศเพื่อให้การจัดทำบัญชีและบันทึกทางการเงินของบริษัทเป็นไปอย่างถูกต้องและสมบูรณ์
-
• บุคลากรทุกระดับจะต้องยึดหลักความซื่อสัตย์ปราศจากอคติและความซื่อตรงในการจัดเก็บบันทึกข้อมูล
4. การติดตามดูแลให้มีการปฏิบัติตามจรรยาบรรณของบริษัท
บริษัทกำหนดให้เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน ที่จะต้องรับทราบ
ทำความเข้าใจ และปฏิบัติตามนโยบายและข้อปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ในจรรยาบรรณของบริษัทอย่างเคร่งครัด
โดยในการกำกับดูแลและติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณธุรกิจ
ให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดูแล ส่งเสริม สนับสนุน
และติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณธุรกิจของผู้ใต้บังคับบัญชา
ในกรณีพบการฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ จรรยาบรรณ
หรือนโยบายของบริษัทที่เกี่ยวข้องหรือยินยอมให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีการฝ่าฝืนดังกล่าว
ผู้บริหารหรือพนักงานจะต้องรายงานตรงต่อฝ่ายทรัพยากรบุคคลโดยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในนโยบายและระเบียบปฏิบัติในการทำงานในเรื่องดังกล่าวต่อไป
5. ขั้นตอนการลงโทษทางวินัย
บริษัทมีขั้นตอนการลงโทษทางวินัย ในกรณีที่พบการฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ จรรยาบรรณ
หรือนโยบายของบริษัทที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
-
(1) การฝ่าฝืนที่ไม่ร้ายแรง:
บุคคลดังกล่าวจะได้รับหนังสือเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร
ซึ่งจะระบุลักษณะของการฝ่าฝืนรวมทั้งมูลเหตุที่อาศัยเป็นหลักของการฝ่าฝืนนั้น
โดยให้โอกาสบุคคลดังกล่าวโต้แย้งข้อกล่าวหาดังกล่าวต่อผู้บังคับบัญชา หากไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ให้นำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการบุคคลซึ่งแต่งตั้งโดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อพิจารณา
และให้ถือคำตัดสินของคณะกรรมการบุคคลเป็นที่สิ้นสุด หากมีการฝ่าฝืนเป็นครั้งที่สอง
หรือบุคคลดังกล่าวไม่แก้ไขความผิดจากการฝ่าฝืนในครั้งแรกตามที่ได้รับหนังสือเตือนนั้น
บุคคลดังกล่าวจะถูกลงโทษทางวินัยอย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจรวมถึงการเลิกจ้างได้
-
(2) การฝ่าฝืนร้ายแรง: ซึ่งรวมถึงการฝ่าฝืนดังต่อไปนี้ เช่น
การให้หรือการรับสินบน การฉ้อโกง
การเปิดเผยข้อมูลความลับ หรือทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท ต่อบุคคลที่สาม และการกระทำใดๆ
ที่เสื่อมเสียต่อเกียรติคุณของบริษัท หรือปกปิดหรือไม่รายงานข้อมูล การหารือ หรือเอกสารสำคัญใดๆ
ต่อผู้บังคับบัญชา บริษัทอาจพิจารณาเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย
และโดยไม่จำเป็นต้องออกหนังสือเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน ซึ่งหากการฝ่าฝืนจรรยาบรรณ
หรือนโยบายของบริษัทที่เกี่ยวข้องนี้ เป็นความผิดตามกฎหมาย ให้ดำเนินการทางกฎหมายด้วย
ทั้งนี้ บริษัทจะมีการทบทวนจรรยาบรรณธุรกิจทุกๆ 2 ปี
เพื่อให้มีความเหมาะสมกับภาวการณ์และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเรียนมาเพื่อทราบ
และถือปฏิบัติโดยทั่วกัน